"ซีเมนส์"เปิดศูนย์บริการพลังงานไฟฟ้าแห่งใหม่ เสริมการเติบโตและความยั่งยืนของภาคพลังงานไทย

>>

Hightlight 

  • บริษัท ซีเมนส์ จำกัด เข้ามาให้บริการในประเทศไทยเป็นเวลานานกว่าศตวรรษ เป็นองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมไฟฟ้า เป็นผู้นำตลาดโลกในการใช้เทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ (automation) และการนำระบบดิจิตัลมาใช้กับการปฏิบัติงานในหลากหลายรูปแบบ
  • เปิดศูนย์บริการพลังงานไฟฟ้า (Power Generation Services) แห่งใหม่อย่างเป็นทางการในประเทศไทยในวันนี้
  • เพิ่มศักยภาพในการสนับสนุนและส่งเสริมการเติบโตและความยั่งยืนของภาคพลังงานไทย

 

นาย ทอร์เบียน ฟอร์ส หัวหน้าฝ่ายบริหาร ธุรกิจบริการพลังงานไฟฟ้า โรงไฟฟ้าย่อย และธุรกิจน้ำมันและก๊าซ  กล่าวระหว่างพิธีเปิดศูนย์บริการดังกล่าวว่า บริษัทเลือกเปิดศูนย์บริการธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้าที่จังหวัดระยอง เพื่อสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างใกล้ชิดโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้บริการแก่ลูกค้าอุตสาหกรรม อีกทั้งยังเป็นการยกระดับการให้บริการเพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมของไทยที่กำลังเติบโต

โดยศูนย์บริการดังกล่าวสามารถให้บริการแก่ลูกค้าโรงไฟฟ้าที่ไว้วางใจใช้กังหันก๊าซสำหรับการผลิตไฟฟ้าเชิงอุตสาหกรรม ที่มีอยู่ราว 100 รายในประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มีการติดตั้งกังหันก๊าซรุ่น SGT-800 มากที่สุดในโลก นับเป็นความสำเร็จอันน่าทึ่งสำหรับประเทศที่ไม่ได้มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุด

“ศูนย์บริการแห่งใหม่นี้เอื้อประโยชน์อย่างใหญ่หลวงต่อลูกค้าของซีเมนส์ พร้อมทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ภาคพลังงานของไทย เพราะไม่เพียงช่วยให้เราใกล้ชิดกับลูกค้าในประเทศไทยมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการบริการที่มีความเฉพาะเจาะจงสำหรับลูกค้าในประเทศไทยมากขึ้น รวดเร็วขึ้น และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในอุตสาหกรรมพลังงานได้เป็นอย่างดี” นายทอร์เบียนกล่าว

 
แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ

ทั้งนี้เกี่ยวกับแผนพีดีพี นางนัดจา ากันสัน รองประธาน และหัวหน้าฝ่ายธุรกิจบริการพลังงานไฟฟ้า (Power Generation Services) ประจำประเทศไทย ของซีเมนส์ กล่าวว่า การสนับสนุนโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (เอสพีพี) อย่างต่อเนื่อง และการกระจายอำนาจในภาคพลังงานทำให้ประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งประเทศต้นแบบที่ดีเยี่ยมสำหรับการสร้างภูมิทัศน์ทางพลังงานที่ยั่งยืน

นอกจากนี้แล้วการส่งเสริมพลังงานหมุนเวียนควบคู่ไปกับก๊าซธรรมชาติ และเชื้อเพลิงดั้งเดิมอื่นๆ เช่น น้ำมันและถ่านหิน เป็นเป็นการสร้างความมั่นคงให้แก่ระบบนิเวศน์ทางพลังงาน ซึ่งเอื้อต่อการเติบโตทางอุตสาหกรรมและการพัฒนาประเทศ ตอบรับความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น